กรีด Big Bag เรื่องจริง หรือแค่ข้ออ้าง

Posted: วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 by Admin DEN in
0


เครดิตรูปภาพจาก โพสต์เดย์
ยิ่งฟังยิ่งขัดใจ เดิ๋ยวก็พังคันกั้นน้ำคลองประปา เดิ๋ยวก็กรีดบิ๊กแบ็ค ทำไมมีออกมาขอร้องว่าอย่า และก็อย่าทำลายคัน และBigbag ถ้ามันมีปัญหาจริงก็ควรจะต้องจัดเวณยามตรวจตรา จำดำเนินคดีให้เป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ดีแต่พูดว่า อย่า และก็อย่า หรือความจริงมันเป็นเพียงข้ออ้างในการเบี่ยงเบนว่า ฉันแก้ปัญหาไม่ได้เพราะชาวบ้านทำลายคัน และBigBag หรือแค่
  1. คันพังเองเพราะสร้างไม่ได้มาตรฐาน
  2. BigBag ชำรุดระหว่างการยกติดตั้งไปขูดกับของมีคมโดยบังเอิญ


แถลงสถานการณ์น้ำประจำวันที่ 5 พฤศจิกายน 2554 โดย นายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา และโฆษกพิเศษศปภ.
ส่วนการวางแนวกระสอบทรายยักษ์ "บิ๊กแบ๊ก" เพื่อชะลอน้ำจากถ.พหลโยธิน ที่จะไหลเข้าสู่สู่กรุงเทพฯ ชั้นใน กระทรวงคมนาคม ร่วมกับกองทัพไทยและกทม. ได้ดำเนินการวางแนวบิ๊กแบ๊กเสร็จเรียบร้อยแล้วในวันนี้ ขั้นตอนต่อไป คือ การสูบน้ำหลังแนวบิ๊กแบ๊กลงคลองเปรมประชากร เพื่อระบายน้ำออกจากถนนวิภาวดีรังสิต อย่างไรก็ตาม
ตามที่มีข่าวว่าประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ตอนเหนือของแนวบิ๊กแบ๊กเป็นห่วงว่าน้ำที่ท่วมขังบริเวณพื้นที่จะไม่ลดปริมาณลงกระทั่งมีข่าวพี่น้องประชาชนใช้ของมีคมกรีดบิ๊กแบ๊กนั้น ขอเรียนว่าน้ำที่ขังบริเวณพื้นที่ทางตอนเหนือของแนวบิ๊กแบ๊กจะถูกเร่งระบายลงคลองรังสิตประยูรศักดิ์และคลองอื่นๆ ในระบบชลประทานต่อไป ขอความกรุณาพี่น้องประชาชนอย่าทำลายบิ๊กแบ๊กรวมถึงคันกั้นน้ำต่างๆ ขอให้คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม เพื่อจะได้ก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกัน

อ้างอิงเว็บ มติชน : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1320504042&grpid=00&catid=&subcatid=


หรือถ้ามีมาตราการป้องกันที่ดีกว่าปากพูดแล้ว ก็ช่วยแถลงให้ประชาชนอุ่นใจจากการทำงานของ ศปภ. บ้างนะครับ หรือแค่ถุงทรายยักษ์(Bigbag) ความยาวแค่ 6 กิโลเมตร ยังดูแลไม่ได้จะดูแลประเทศไทยทั้งประเทศได้อย่างไร

0 ความคิดเห็น: